นายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตช่วงครึ่งแรกปี 65 ระหว่างเดือน ม.ค.-มิ.ยคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. มีเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 289,097 ล้านบาท เติบโตลดลง 1.94% เมื่อเทียบปี 64 โดยแบ่งเป็น เบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ 79,685 ล้านบาท ลดลง 4.75% และเบี้ยประกันภัยรับปีต่อไป 209,412 ล้านบาท ลดลง 0.82% โดยมีอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ 82%
ทั้งนี้ สาเหตุที่ภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตครึ่งปีแรกชะลอตัว มาจากการได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ อาทิ อัตราค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น สถานการณ์เงินเฟ้อ ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงและส่งผลต่อกำลังซื้อของประชาชน รวมถึงภาวะดอกเบี้ยที่ผันผวนและสถานการณ์เงินบาทอ่อนค่า ทำให้ประชาชนชะลอการลงทุน เห็นได้จากผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน มีเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 19,825 ล้านบาท เติบโตลดลง 8.22%
อย่างไรก็ตาม พบว่า เบี้ยประกันภัยรับรวมของสัญญาเพิ่มเติมประกันภัยสุขภาพ และสัญญาเพิ่มเติมโรคร้ายแรง อยู่ที่ 50,808 ล้านบาท เติบโต 9.15% ซึ่งหลัก ๆ มาจากการที่ประชาชนหันมาดูแลสุขภาพและการทำประกันสุขภาพมากขึ้น เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ขณะที่เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ อยู่ที่ 4,540 ล้านบาท เติบโต 6.98% ส่วนหนึ่งมาจากการที่ประเทศไทย เข้าสู่สังคมสูงวัย จึงมีการออมให้มีฐานะการเงินที่เพียงพอรองรับช่วงเกษียณ อีกทั้งยังได้รับมาตรการลดหย่อนภาษี
นายสาระ กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจประกันชีวิตในช่วงครึ่งปีหลัง ยังมีปัจจัยที่ส่งเสริมให้มีการเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายได้อยู่ โดยคาดการณ์ว่า จะมีเบี้ยประกันภัยรับรวมประมาณ 612,000-629,500 ล้านบาท ขยายตัว 0 ถึง 2.5% และอัตราความคงอยู่ 82-83% โดยปัจจัยบวกที่ช่วยกระตุ้น ได้แก่ คนใส่ใจและดูแลสุขภาพ หันมาทำประกันมากขึ้น รวมถึงผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบบำนาญ ที่ตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุของไทย ขณะเดียวกันพฤติกรรมการซื้อประกันผ่านช่องทางออนไลน์ รวมกับ ช่องทางหลักอย่างช่องทางตัวแทนและช่องทางอื่นๆ เริ่มมีสัดส่วนที่มากขึ้น จากความสะดวก รวดเร็ว นอกจากนี้ยังเป็นช่วงที่ภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมธุรกิจประกันชีวิต เรื่องของการลดหย่อนภาษีคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตา อาทิ สงครามการค้าระหว่างประเทศ ความไม่แน่นอนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ การเกิดใหม่ของสงครามเทคโนโลยี ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมายใหม่ โดยเฉพาะ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และสัญญาการประกันภัยสุขภาพแบบมาตรฐานใหม่ แต่ยืนยันว่า ฐานะทางการเงินของบริษัทประกันชีวิตยังเติบโตได้มั่นคงและแข็งแกร่ง
“เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของภาคธุรกิจ ในการรับมือต่อปัจจัยท้าทายและความไม่แน่นอนรอบด้าน สมาคมประกันชีวิตไทย จึงมีนโยบายส่งเสริมให้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตให้มีความหลาก และมีการจัดตั้งคณะทำงานกลุ่มย่อย ทำงานร่วมกันระหว่าง บริษัทประกันชีวิตและสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อทำงายร่วมกันอย่างใกล้ชิด”