นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 36.08 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 36.22 บาทต่อดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ ที่ผ่านมา เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง (แกว่งตัวในกรอบ 36.05-36.30 บาทต่อดอลลาร์) หนุนโดยการอ่อนค่าลงต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ และโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ
หลังราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องราว +40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่คลายกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด
อย่างไรก็ดี เงินบาทก็ยังคงติดอยู่แถวโซนแนวรับ 36.00 บาทต่อดอลลาร์ เนื่องจากผู้เล่นในตลาดบางส่วนต่างก็รอทยอยซื้อเงินดอลลาร์ในช่วงดังกล่าว ขณะที่ผู้เล่นต่างชาติที่ยังคงมุมมองเชิงลบต่อเงินบาท ก็อาจรอจังหวะเปิด/เพิ่มสถานะ Short THB (มองเงินบาทอ่อนค่า) เช่นกันคำพูดจาก สล็อต777
สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เล่นในตลาดคลายกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดลงบ้าง หลังอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ ในเดือนเมษายน ได้ชะลอลงตามที่ตลาดคาดหวังไว้
สำหรับสัปดาห์นี้ เราประเมินว่า ควรจับตา รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ อย่าง ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ ของบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก โดยเฉพาะ สหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด ส่วนในฝั่งไทย ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงาน GDP ไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งอาจกระทบต่อมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มนโยบายการเงินของไทยได้
แนวโน้มของค่าเงินบาท
ประเมินว่า โมเมนตัมการแข็งค่าของเงินบาทอาจชะลอลงบ้าง โดยเงินบาทยังคงมีปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่าจาก โฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติที่สูงขึ้นจากสัปดาห์ก่อน นอกจากนี้ เงินบาทอาจอ่อนค่าลง หาก GDP ไตรมาสแรกออกมาแย่กว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดเริ่มคาดหวังการลดดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยอีกครั้ง อนึ่ง ควรจับตาทิศทางราคาทองคำ อย่างใกล้ชิด หลังราคาทองคำมีผลกับทิศทางเงินบาทพอสมควรในช่วงระยะสั้น
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า เงินดอลลาร์มีโอกาสรีบาวด์แข็งค่าขึ้น หากดัชนี PMI ของสหรัฐฯ ออกมา “ดีกว่าคาด” ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังคงกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ก็อาจได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจญี่ปุ่นออกมาแย่กว่าคาด ลดโอกาส BOJ ขึ้นดอกเบี้ยต่อ
แนะนำ ผู้เล่นในตลาดควรเลือกใช้เครื่องมือในการปิดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น ท่ามกลางความผันผวนของเงินบาท รวมถึงสกุลเงินอื่นๆ ที่สูงขึ้นกว่าช่วงอดีตที่ผ่านมาพอสมควร โดยผู้เล่นในตลาดอาจเลือกใช้เครื่องมือเพิ่มเติม อาทิ Options หรือ Local Currency ควบคู่ไปกับการปิดความเสี่ยงผ่านการทำสัญญา Forward
มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 35.85-36.50 บาท/ดอลลาร์
ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.00-36.20 บาท/ดอลลาร์
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 36.10 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ระดับ 36.28 บาท/ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ขณะที่ตลาดยังคงคาดการณ์เกี่ยวกับกำหนดเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ท่ามกลางสัญญาณเงินเฟ้อที่ชะลอตัว โดยนักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้กำหนดเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ทั้งนี้ นายพาวเวลมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ของสหรัฐในวันอาทิตย์ที่ 19 พ.ค. เวลา 15.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเช้าวันจันทร์ที่ 20 พ.ค. เวลา 02.30 น.ตามเวลาไทยคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
เมื่อวันศุกร์ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 145 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 832 ล้านบาท
* กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ USD/THB 36.00- 36.30 *แนะนำ ซื้อ 36.00/ ขาย 36.30
EUR/THB 39.10- 39.60 * แนะนำ ซื้อ 39.10 / ขาย 39.60
JPY/THB 0.2300- 0.2350 * แนะนำ ซื้อ 0.2300/ ขาย 0.2350
GBP/THB 45.70- 47.20 AUD/THB 24.00- 24.50
กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 35.95-36.20 บาท/ดอลลาร์ ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยตามดัชนีเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงต่อ อย่างไรก็ดี US Treasury yields ปรับสูงขึ้นหลังนางมิเชล โบว์แมน สมาชิกคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า อาจขึ้นดอกเบี้ยได้หากเงินเฟ้อไม่ชะลอลงต่อ
เงินเยนปรับอ่อนค่าลงเทียบดอลลาร์ หลังธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ไม่ปรับลดขนาดการเข้าซื้อพันธบัตรเมื่อวันศุกร์ตามที่ตลาดคาด
ทางการจีนออกมาตรการสนับสนุนภาคอสังหาฯ โดยตั้งงบราว 3 แสนล้านหยวน เพื่อซื้ออสังหาฯ ที่ยังขายไม่หมด แต่ขนาดมาตรการอาจไม่ใหญ่พอ